The President of Dhammachai International Research Institute (DIRI) of New Zealand and team visit Xi Lai Temple and the University of the West

On Wednesday, July 10, 2024, Phra Maha Sutham Suratano, Pali IX, Dr., Assistant Abbot of Wat Phra Dhammakaya, Vice President of the Union of Thai Sanghas in Oceania (UTO), President of the Dhammachai International Research Institute (DIRI) of New Zealand, and Abbot of Wat Phra Dhammakaya Auckland, New Zealand, along with monks from Wat Phra Dhammakaya California, visited Venerable Hui Dong, Abbot of Xi Lai Temple. Xi Lai Temple is the largest branch of Fo Guang Shan in Taiwan and the most significant Mahayana Buddhist temple in America and Europe. Since 1994, Fo Guang Shan and Wat Phra Dhammakaya have shared a close “sister temples” relationship, fostering annual visits and joint merit-making activities.

During this visit, there were in-depth discussions on Buddhist teachings. Dr. Phra Maha Sutham expressed gratitude to Venerable Hui Dong for the historical support provided by Xi Lai Temple, especially during the early days of Wat Phra Dhammakaya’s propagation in the United States, starting at Wat Buddha Maywood.

Venerable Hui Dong recounted that Venerable Master Hsing Yun faced numerous challenges when he first came to America, with limited Buddhist followers and resistance from other religious groups, making the propagation of Buddhist teachings difficult. Master Hsing Yun’s legacy of assisting new Buddhist temples remains a guiding principle for his disciples.

Dr. Phra Maha Sutham praised Venerable Master Hsing Yun as a model for Buddhist work and a revered teacher, emphasizing his profound teaching on the “Philosophy of Being Second,” which highlights humility and service. Master Hsing Yun believed that one should support and elevate others rather than seek personal prominence, focusing on altruism, compassion, and the collective good. Venerable Hui Dong elaborated that Master Hsing Yun preferred supporting others over seeking prominence.

This meeting strengthened the relationship between the temples, signaling a future of collaborative efforts in Buddhist education and scripture translation. After exchanging souvenirs, Venerable Hui Dong and Venerable Hui Zhi guided a temple tour, sharing insights into its construction. The visit was marked by a joyous atmosphere and mutual respect.

Following this, Dr. Phra Maha Sutham visited Dr. Minh-Hoa Ta, President of the University of the West, founded by Venerable Master Hsing Yun. They discussed educational development and cooperation in translating ancient scriptures, accompanied by Dr. Shakya, Associate Professor of Religious Studies, and Dr. Shou-Jen Kuo, Associate Professor and International Coordinator. The tour included campus facilities, and Dr. Phra Maha Sutham presented a Dhamma book as a token of appreciation for their warm welcome.

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 พระมหาสุธรรม สุรตโน ป.ธ 9, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย, รองประธานสหภาพธรรมทูตไทย ในโอเซียเนีย (UTO), ประธานอำนวยการสถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย(DIRI) และเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พร้อมด้วยคณะสงฆ์วัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย

เข้าเยี่ยมคารวะ พระธรรมาจารย์หุ้ยตง (Venerable Hui Dong) เจ้าอาวาสวัดซีไหล ซึ่งเป็นวัดสาขาใหญ่ที่สุดของฝอกวงซาน (ไต้หวัน) ถือเป็นวัดนิกายมหายานที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาและยุโรป และวัดฝอกวงซาน (ไต้หวัน) ถือเป็นวัดพี่วัดน้องกับวัดพระธรรมกาย ประเทศไทยตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2537 ทำให้วัดซีไหล และวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเหมือนเป็นวัดพี่วัดน้อง มีการทำบุญและแวะเวียนเยี่ยมเยือนกันในทุกปี

โดยครั้งนี้ได้มีการพูดคุยสนทนาธรรมซึ่งกันและกัน และพระมหาสุธรรม สุรตโน ได้กล่าวขอบคุณกับพระธรรมาจารย์หุ้ยตง ที่ในอดีตที่ผ่านมาทางวัดซีไหลได้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ โดยเฉพาะในยุคแรกที่วัดพระธรรมกายเข้ามาเผยแผ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ยุควัดพุทธเมย์วูด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทุกวัดศูนย์สาขาในอเมริกา และวัดฝอกวงซานให้การช่วยเหลือสาขาของวัดพระธรรมกายในประเทศไต้หวันด้วย

พระธรรมาจารย์หุ้ยตง ได้กล่าวว่า ท่านพระธรรมาจารย์ซิงหวินต้าซือ ตอนที่มาอเมริกาท่านลำบากมาก คนเชื่อในพระศาสนามีไม่เยอะ ต่างศาสนิกกีดกัน ทำให้การเผยแผ่คำสอนเป็นไปได้ยาก จึงทำให้ท่านอยากจะช่วยเหลือทุกวัดที่เป็นศาสนาเดียวกัน ความตั้งใจนี้ ท่านได้ถ่ายทอดกับลูกศิษย์ทุกคนว่า ถ้ามีชาวพุทธมาเปิดวัดใหม่ ให้ช่วยเหลือเขาเสมอ

ซึ่งพระมหาสุธรรม สุรตโน ได้กล่าวว่า ท่านพระธรรมาจารย์ซิงหวินต้าซือนั้น เป็นต้นแบบเป็นตัวอย่างในการทำงาน และเป็นเสมือนอาจารย์ที่ท่าน และเหล่ากัยาณมิตรวัดพระธรรมกายทั่วโลกต่างเคารพรักท่านมาก คำสอนของท่านที่กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า “ไม่เป็นนายใหญ่ แต่เป็นนายรอง” นั่นดีและลึกซึ้งมาก ๆ ซึ่งพระธรรมาจารย์หุ้ยตง กล่าวขยายความว่า ท่านพระธรรมาจารย์ซิงหวินต้าซือเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่ห่วงตนเอง ทำงานเผยแผ่ตลอด ท่านขอเป็นที่สอง ไม่ขอเป็นที่หนึ่ง

การพบปะกันครั้งนี้ ถือเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีที่สร้างความแน่นแฟ้นมากขึ้น และเป็นนิมิตหมายที่ดี โดยทั้ง 2 ท่าน ได้พูดถึงในอนาคตที่จะได้ทำงานพระพุทธศาสนาร่วมงานกันมากยิ่งขึ้น เช่น การทำงานการศึกษา การแปลพระคัมภีร์ต่าง ๆ เป็นต้น

และหลังจากที่ได้มอบของที่ระลึกซึ่งกันและกัน พระธรรมาจารย์หุ้ยตง และพระอาจารย์หุ้ยจือ ได้พานำชมวัดและให้ข้อมูลสำคัญของการสร้างวัดในส่วนต่าง ๆ ด้วย นับเป็นช่วงเวลาและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความปลื้มปีติที่ได้มาเจอกัน

หลังจากนี้พระมหาสุธรรม สุรตโน ยังได้เดินทางไปพบปะกับ ดร.มิน โฮ ทา (Dr.Minh- Hoa-Ta) อธิการบดี University of the West ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่พระธรรมาจารย์ซิงหวินต้าซือ เป็นผู้ก่อตั้ง พร้อมทั้งมีคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ คือ รองศาสตราจารย์ ดร.ศากยะ (Dr.Shakya) สาขาวิชาศาสนาศึกษา และ รองศาตราจารย์ ดร.โชว-เจน กัว (Shou-Jen Kuo) หัวหน้าผู้ประสานงานระหว่างประเทศ ซึ่งได้พูดคุยหารือแนวทางการพัฒนาการศึกษา และความร่วมมือในการแปลคัมภีร์โบราณต่าง ๆ อีกด้วย พร้อมกันนี้ยังได้นำชมสถานที่ศึกษาตามอาคารต่าง ๆ ได้ถ่ายรูปและมอบของที่ระลึกให้คณะสงฆ์ที่เดินทางไปพบหารือ ซึ่งพระมหาสุธรรม สุรตโน ได้มอบหนังสือธรรมะไว้ให้ที่มหาวิทยาลัย พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

Leave a Reply